สมมติว่าเราไปร่วมงานเลี้ยงอะไรก็ได้สักงานหนึ่ง
ถ้างานนั้นมีคนร่วมงานเยอะ เจ้าภาพก็จะได้รับคำชมแบบมีหน้ามีตา พาให้หน้าชื่น ตาบาน จนออกนอกหน้าว่า "แหม งานนี้มีคนมากันมากหน้าหลายตาเสียจริง"
คำว่า "มากหน้า หลายตา" ที่กล่าวข้างต้นเป็นคำที่ฟังคุ้นหูกันมานานจนกลายเป็นความเคยชิน ขี้เกียจคิดต่อว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่บ้างหรือเปล่า
แต่ถ้าจะมองให้ลึกให้ซึ่งลงไป เราอาจจะเห็นอะไรต่อมิอะไรที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาเหล่านั้นก็ได้ ลองมาถอดรหัส "ธรรมะ" ใน "หน้า" และ "ตา" ที่มากันมากมายในงานสังสรรงานนี้ว่ามีกี่หน้า กี่ตา บางคน(ขอเน้นว่าบางคน)ถึงแม้ว่าจะมาคนเดียว แต่พกมาสองหน้า
เป็นเมื่อก่อนคนประเภทนี้ เขาเรียกว่า "คนสองหน้า" คบไม่ได้ เพราะอะไร เพราะมันมีหน้าที่เหลือจากการย่อยสลายอยู่นะสิ
"หน้าที่เหลือจากการย่อยสลาย" งงละสิ ทำ "หน้า" เป็น ง.งู สี่ตัวเลย งง งง
อะ เฉลย ก็ได้ ก็ "หน้ากาก" ไง หน้าที่เหลือจากการย่อยสลาย ย่อยไม่หมดมันก็เป็นกาก
งั้นลองมาถอดหน้ากากกันหน่อยเป็นไรสองหน้าที่ว่าเนียะมีหน้าอะไรบ้าง
"หน้าที่เหลือจากการย่อยสลาย" งงละสิ ทำ "หน้า" เป็น ง.งู สี่ตัวเลย งง งง
อะ เฉลย ก็ได้ ก็ "หน้ากาก" ไง หน้าที่เหลือจากการย่อยสลาย ย่อยไม่หมดมันก็เป็นกาก
งั้นลองมาถอดหน้ากากกันหน่อยเป็นไรสองหน้าที่ว่าเนียะมีหน้าอะไรบ้าง
ก็ "หน้าตา" กับ "หน้าที่" ไงล่ะ
อืม "หน้า" ได้แล้ว อย่างนี้เขาเรียกว่า "ได้หน้า"
แล้ว "ตา" ละอย่าลืม มีตาอะไรบ้าง
เรื่อง "ตา" ไว้โอกาส "หน้า"
จะมาเฉลยน่ะ วันนี้ หมด "หน้าที่" แล้ว "ตาหน้า" ว่ากันใหม่