โดยปรกติเราไม่ต้องคิดเลยเวลาหายใจ เพราะมันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตามเราอาจเปลี่ยนแปลงจังหวะการหายใจของเราได้เมื่อต้องการ
แต่ก็เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การเป่าลูกโป่ง การผิวปาก
เรายังสามารถกลั้นลมหายใจได้ในช่วงสั้น ๆ
และบางคนซึ่งฝึกฝนมาอย่างดีอาจกลั้นหายใจได้นานหลายนาที
ร่างกายของเรายังมีกลไกป้องกันความผิดพลาดที่เรียกว่า Failsafe
ซึ่งไม่ยอมปล่อยให้เราหยุดหายใจนานเกินไปเป็นอันขาด
บางครั้งพ่อแม่วิตกทุกข์ร้อนมากว่า ลูกเล็กซึ่งอาละวาดเอาแต่ใจด้วยการกลั้นหายใจ
อาจทำอันตรายกับตนเองจนถึงแก่ชีวิตได้
ถึงแม้ว่าบางคนพยายามกลั้นหายใจ จนหน้าเขียวเป็นลมหมดสติไป
แต่ทันทีที่ตกอยู่ในสภาพนั้น
กลไกเฟลเซฟจะกระตุ้นให้ระบบการหายใจของร่างกายเริ่มทำงานอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าพิจารณาจากข้อมูลนี้ คนปรกติก็ไม่น่าจะกลั้นใจตายได้นะ
การหายใจ ยังมีเรื่องที่น่าสนใจ คือ
ช่วงนอนหลับร่างกายค่อนข้างนิ่งเคลื่อนไหวน้อย
จึงต้องการปริมาณออกซิเจนลดลง จังหวะหายใจจะค่อย ๆ ช้าลงและสม่ำเสมอ
ความรู้ข้อนี้ได้นำมาใช้ประโยชน์ในเรือดำน้ำ ระหว่างช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง
โดยบรรดาลูกเรือต้องถูกสั่งให้นอนหลับมากเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อใช้อากาศภายในลำเรือให้น้อยที่สุด
ทารกแรกเกิดหายใจประมาณ ๑ ครั้งทุกวินาทีหรือ ๖๐ ครั้งต่อนาที
เมื่อโตขึ้นหน่อยทารกหายใจประมาณ ๔๐ ครั้งต่อนาที
ส่วนเด็กโตจะหายใจช้าลงกว่าทารกเล็กน้อย
และผู้ใหญ่หายใจประมาณ ๑๕-๒๐ ครั้งต่อนาที นั่นคือหายใจหนึ่งครั้งทุก ๔-๕ วินาที
สัตว์ประเภทต่าง ๆ หายใจในอัตราช้าเร็วต่างกัน
โดยทั่วไปสัตว์เล็กหายใจเร็วกว่าสัตว์ใหญ่ ตัวอย่างเช่น
ในช่วงพักผ่อนหนูหายใจในอัตรา ๑๐๐-๒๐๐ ครั้งต่อนาที
นกกระจอก ๙๐ ครั้งต่อนาที แมว ๒๐-๓๐ ครั้ง สุนัข ๑๕-๒๕ ครั้ง
ม้า ๕ ครั้ง และช้างหายใจในอัตราเท่ากับม้า
ศูนย์ควบคุมการหายใจ ( Respiratory Center) ภายในก้านสมองตรงฐานสมอง
ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการหายใจ
เซลล์กลุ่มนี้คอยตรวจสอบระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดอย่างต่อเนื่อง
เมื่อใดก็ตามที่ระดับคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น
ศูนย์ควบคุมการหายใจจะสั่งกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องกับการหายใจ
ให้ทำงานเพิ่มขึ้นหรือเร็วขึ้นหรือทั้งสองอย่าง
จนกว่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกินจะถูกขับออกมาโดยปอด
และกลไกของร่างกายกลับคืนสู่สภาพปรกติ
ที่มา 108 ซองคำถาม
อย่างไรก็ตามเราอาจเปลี่ยนแปลงจังหวะการหายใจของเราได้เมื่อต้องการ
แต่ก็เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การเป่าลูกโป่ง การผิวปาก
เรายังสามารถกลั้นลมหายใจได้ในช่วงสั้น ๆ
และบางคนซึ่งฝึกฝนมาอย่างดีอาจกลั้นหายใจได้นานหลายนาที
ร่างกายของเรายังมีกลไกป้องกันความผิดพลาดที่เรียกว่า Failsafe
ซึ่งไม่ยอมปล่อยให้เราหยุดหายใจนานเกินไปเป็นอันขาด
บางครั้งพ่อแม่วิตกทุกข์ร้อนมากว่า ลูกเล็กซึ่งอาละวาดเอาแต่ใจด้วยการกลั้นหายใจ
อาจทำอันตรายกับตนเองจนถึงแก่ชีวิตได้
ถึงแม้ว่าบางคนพยายามกลั้นหายใจ จนหน้าเขียวเป็นลมหมดสติไป
แต่ทันทีที่ตกอยู่ในสภาพนั้น
กลไกเฟลเซฟจะกระตุ้นให้ระบบการหายใจของร่างกายเริ่มทำงานอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าพิจารณาจากข้อมูลนี้ คนปรกติก็ไม่น่าจะกลั้นใจตายได้นะ
การหายใจ ยังมีเรื่องที่น่าสนใจ คือ
ช่วงนอนหลับร่างกายค่อนข้างนิ่งเคลื่อนไหวน้อย
จึงต้องการปริมาณออกซิเจนลดลง จังหวะหายใจจะค่อย ๆ ช้าลงและสม่ำเสมอ
ความรู้ข้อนี้ได้นำมาใช้ประโยชน์ในเรือดำน้ำ ระหว่างช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง
โดยบรรดาลูกเรือต้องถูกสั่งให้นอนหลับมากเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อใช้อากาศภายในลำเรือให้น้อยที่สุด
ทารกแรกเกิดหายใจประมาณ ๑ ครั้งทุกวินาทีหรือ ๖๐ ครั้งต่อนาที
เมื่อโตขึ้นหน่อยทารกหายใจประมาณ ๔๐ ครั้งต่อนาที
ส่วนเด็กโตจะหายใจช้าลงกว่าทารกเล็กน้อย
และผู้ใหญ่หายใจประมาณ ๑๕-๒๐ ครั้งต่อนาที นั่นคือหายใจหนึ่งครั้งทุก ๔-๕ วินาที
สัตว์ประเภทต่าง ๆ หายใจในอัตราช้าเร็วต่างกัน
โดยทั่วไปสัตว์เล็กหายใจเร็วกว่าสัตว์ใหญ่ ตัวอย่างเช่น
ในช่วงพักผ่อนหนูหายใจในอัตรา ๑๐๐-๒๐๐ ครั้งต่อนาที
นกกระจอก ๙๐ ครั้งต่อนาที แมว ๒๐-๓๐ ครั้ง สุนัข ๑๕-๒๕ ครั้ง
ม้า ๕ ครั้ง และช้างหายใจในอัตราเท่ากับม้า
ศูนย์ควบคุมการหายใจ ( Respiratory Center) ภายในก้านสมองตรงฐานสมอง
ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการหายใจ
เซลล์กลุ่มนี้คอยตรวจสอบระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดอย่างต่อเนื่อง
เมื่อใดก็ตามที่ระดับคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น
ศูนย์ควบคุมการหายใจจะสั่งกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องกับการหายใจ
ให้ทำงานเพิ่มขึ้นหรือเร็วขึ้นหรือทั้งสองอย่าง
จนกว่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกินจะถูกขับออกมาโดยปอด
และกลไกของร่างกายกลับคืนสู่สภาพปรกติ
ที่มา 108 ซองคำถาม