วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ฅนขายฃวด

รศ. ดร. คุณหญิงสุริยา รัตนกุล ผู้เขียนหนังสือ ฃ, ฅ หายไปไหน ?

ได้ศึกษา ความเป็นมาของพยัญชนะทั้งสองตัวนี้ และชี้ให้เห็นว่า

หากเริ่มนับตั้งแต่ที่พบ ฃ, ฅ ในศิลาจารึกสมัยสุโขทัยเป็นครั้งแรก

จนถึงการประกาศเลิกใช้ ฃ, ฅ ในปทานุกรม พ.ศ. 2470 และพจนานุกรม พ.ศ. 2493 เป็นเกณฑ์

พยัญชนะทั้งสองมีที่ใช้อยู่ในภาษาไทย นานถึง 700 ปี

หากแต่อัตราการใช้และความแม่นยำที่ใช้แตกต่างกันไปตามยุคสมัย

เดิม ฃ, ฅ เป็นพยัญชนะแทนเสียง ซึ่งเคยใช้กันมาแต่เดิม (ซึ่งแตกต่างจากเสียง ข และ ค)

แต่เสียงนี้ได้หายไปในระยะหลัง เป็นเหตุให้พยัญชนะทั้งสองตัวหมดความสำคัญลงในภาษาไทยปัจจุบัน

เมื่อครั้งที่มีการประดิษฐ์พิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 2434

ผู้ประดิษฐ์ ได้ตัดตัว ฃ, ฅ ทิ้งไปด้วยเหตุว่า พื้นที่บนแป้นพิมพ์ดีดไม่เพียงพอ

และยังให้เหตุผลว่า เป็นพยัญชนะที่

"ไม่ค่อยได้ใช้ และสามารถทดแทนด้วย ตัวพยัญชนะอื่นได้"

นี่อาจเป็นครั้งแรกที่พยัญชนะ ฃ, ฅ ถูก "ตัดทิ้ง" อย่างเป็นทางการ

ส่วนครั้งต่อ ๆ มาก็คือ การประกาศงดใช้ ฃ, ฅ สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม

เมื่อครั้งปรับปรุงภาษาไทยให้เจริญก้าวหน้าในยุครัฐนิยม

รวมถึงการประกาศ เลิกใช้ในปทานุกรม และพจนานุกรม ดังกล่าวแล้ว

มีข้อน่าสังเกตว่า แต่ก่อนพยัญชนะ ฅ ไม่ได้ใช้ในคำว่า คน เลย (ฅ ใช้ในคำ ฅอ ฅอเสื้อ เป็นอาทิ)

ความสับสนในเรื่องนี้ คงเกิดมาจาก ก ไก่ คำกลอน ผลงานของ ครูย้วน ทันนิเทศ

(ในหนังสือ แบบเรียนไว เล่มหนึ่ง ตอนต้น, พ.ศ. ๒๔๗๓) ที่แต่งว่า "ฅ ฅนโสภา"

แล้วต่อมา หนังสือ ก ไก่ ฉบับประชาช่าง ก็แต่งว่า "ฅ ฅนขังขึง" ซึ่งเป็น ก ไก่คำกลอน

ฉบับที่คนรุ่นปัจจุบันคุ้นเคยที่สุด แล้วก็เลยพลอยเข้าใจว่า ฅ ใช้ในคำว่า คน

ที่มา 108 ซองคำถาม

บทความ